
แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีเครือข่ายรถบัสและรถไฟขนาดใหญ่ แต่ก็อาจจะมีหลายๆ ครั้งที่คุณต้องการโดยสารแท็กซี่แทน ข้อดีอย่างแรกของรถแท็กซี่คือ มันเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดและเป็นทางเลือกที่ช่วยคุณได้ในกรณีที่หลงทางหรือพลาดรถไฟหรือรถบัสเที่ยวสุดท้าย คำแนะนำนี้จะให้ข้อมูลที่คุณจำเป็นต้องทราบสำหรับการใช้บริการแท็กซี่ในโตเกียว ไล่ตั้งแต่บริษัท ค่าโดยสาร ราคา และการใช้แอปพลิเคชันเพื่อเรียกแท็กซี่ให้มาจอดเทียบ ณ ทางเท้าที่คุณยืนอยู่
แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีเครือข่ายรถบัสและรถไฟขนาดใหญ่ แต่ก็อาจจะมีหลายๆ ครั้งที่คุณต้องการโดยสารแท็กซี่แทน ข้อดีอย่างแรกของรถแท็กซี่คือ มันเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดและเป็นทางเลือกที่ช่วยคุณได้ในกรณีที่หลงทางหรือพลาดรถไฟหรือรถบัสเที่ยวสุดท้าย คำแนะนำนี้จะให้ข้อมูลที่คุณจำเป็นต้องทราบสำหรับการใช้บริการแท็กซี่ในโตเกียว ไล่ตั้งแต่บริษัท ค่าโดยสาร ราคา และการใช้แอปพลิเคชันเพื่อเรียกแท็กซี่ให้มาจอดเทียบ ณ ทางเท้าที่คุณยืนอยู่ บริษัทรถแท็กซี่ในโตเกียว บริษัทรถแท็กซี่ที่ได้รับความนิยมในโตเกียว ได้แก่ นิฮงคตสึ, โตเกียวมูเซ็น, โตเกียวเอ็มเค, ฮิโนมารุ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดมีบริการที่ยอดเยี่ยมตามมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่นอย่างที่ทราบกันดี และได้รับใบอนุญาตเฉพาะสำหรับการขนส่งสาธารณะ ในประเทศญี่ปุ่น ผู้ขับรถแท็กซี่จะต้องมีใบอนุญาตเฉพาะสำหรับการขับรถแท็กซี่และจะต้องมีประกันภัยอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีรถแท็กซี่ส่วนบุคคลบ้างเล็กน้อย ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกของสมาคมแท็กซี่ บริษัทรถแท็กซี่ในโตเกียว ยังมีแท็กซี่อีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า “ชิโรทาคุ” ซึ่งเป็นผู้ขับรถแท็กซี่ผิดกฎหมาย จะรับผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากทางเมืองที่พวกเขาขับอยู่ โปรดใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ไม่ได้รับใบอนุญาตและอาจจะไม่มีประกันภัยหากเกิดเหตุบางอย่างขึ้น คุณสามารถสังเกตรถแท็กซี่ที่ผิดกฎหมายได้จากแผ่นป้ายทะเบียน โดยรถแท็กซี่ที่ถูกกฎหมายจะมีแผ่นป้ายทะเบียนสีเขียวหรือแผ่นป้ายทะเบียนสีขาวในกรอบสีเขียว ขณะที่รถแท็กซี่ที่ผิดกฎหมายจะมีแผ่นป้ายทะเบียนสีขาวตามแบบป้ายทะเบียนรถปกติ อีกจุดสังเกตหนึ่งคือการที่พวกเขาจะถามคุณว่าต้องการใช้บริการไหม แท็กซี่ในญี่ปุ่นจะไม่พูดกับผู้ที่กำลังยืนรอแท็กซี่ แต่จะขับไปจอดต่อคิวที่จุดเรียกแท็กซี่ บริษัทรถแท็กซี่ในโตเกียว ประเภทของรถแท็กซี่ในโตเกียว ประเภทของรถยนต์ที่นิยมนำมาใช้เป็นรถแท็กซี่คือรถยนต์ Sedan หรือรถยนต์แบบสี่ประตู ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงไปเป็นรถแท็กซี่ที่ใช้เครื่องยนต์ระบบคาร์บูเรเตอร์ และในช่วงโอลิมปิก 2020 จะมีรถแท็กซี่แบบใหม่ “JPN Taxi” ออกมาให้บริการซึ่งมีความสะดวกสบายมากกว่าสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามา ด้วยประตูแบบเลื่อนแทนการเปิดแบบดึงออก พร้อมห้องโดยสารภายในที่กว้างกว่าซึ่งสามารถรองรับผู้พิการได้บริษัทรถแท็กซี่หลายบริษัทได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีแท็กซี่ประเภทอื่นๆ อีกเช่นกัน เช่น แท็กซี่ที่วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า แท็กซี่แบบมินิแวนซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้หลายคนและกระเป๋าสัมภาระได้หลายใบ ประเภทของรถแท็กซี่ในโตเกียว การใช้บริการ Uber ในโตเกียว Uber ในโตเกียวจะไม่เหมือนกับที่ใดๆ ในโลก ด้วยค่าบริการที่สูงกว่าและมีให้บริการแค่เฉพาะในตัวเมืองโตเกียวเท่านั้น โดยจะไม่ค่อยมีให้บริการในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งรถที่ให้บริการจะมีความหรูหรากว่ารถแท็กซี่ทั่วไปเล็กน้อย มีห้องโดยสารที่กว้างกว่า เรียกได้ว่าเป็นรถลีมูซีนหรือรถตู้ระดับหรูหราขนาดใหญ่ ค่าบริการในช่วงกลางคืนอาจจะถูกกว่าเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทรถแท็กซี่อื่นจะมีค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับช่วงกลางดึก ในขณะที่ Uber จะไม่มีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติม การใช้บริการ Uber ในโตเกียว การใช้บริการ Uber ในโตเกียว วิธีเรียกแท็กซี่ คุณสามารถเรียกรถแท็กซี่ได้จากจุดยืนรอรถแท็กซี่หน้าสถานีและหน้าอาคารพาณิชย์ต่างๆ คุณสามารถเรียกแท็กซี่ได้โดยการยกมือขึ้นโบก แท็กซี่แต่ละคันจะมีป้ายไฟ LED ขนาดเล็กส่องสว่าง เพื่อระบุว่ารถกำลังว่างหรือมีผู้โดยสารอยู่ ต่อไปนี้คือสัญลักษณ์ต่างๆ ที่คุณอาจพบบนแท็กซี่ โดยจะมีความหมายดังนี้ วิธีเรียกแท็กซี่ 空車:ว่าง/รับผู้โดยสาร割増:มีค่าบริการเพิ่มเติม (ค่าบริการเพิ่มเติมในช่วงกลางดึก/เช้าตรู่)賃走:มีผู้โดยสาร支払:กำลังชำระเงิน (ผู้โดยสารคนปัจจุบันกำลังจะลงจากรถและรถกำลังจะว่างเร็วๆ นี้)迎車:กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางไปรับผู้โดยสาร รถจึงไม่ว่าง回送:รถแท็กซี่หยุดให้บริการในช่วงกลางคืนและจะไม่รับผู้โดยสาร วิธีการบอกปลายทางที่จะไป หากคุณโดยสารแท็กซี่ในประเทศญี่ปุ่น การแสดงที่อยู่เป็นภาษาญี่ปุ่นให้คนขับดูจะดีที่สุด แม้ว่าสถานที่หรือโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงจะเป็นที่รู้จักในหมู่รถแท็กซี่ก็ตาม แต่การแสดงที่อยู่เป็นภาษาญี่ปุ่นให้ดูก็จะช่วยให้ง่ายขึ้นแม้ว่า Google Maps จะเป็นเครื่องมือบอกทางของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายๆ คน แต่การค้นหาที่อยู่ใน เว็บไซต์ Japan Travel by NAVITIME > (https://japantravel.navitime.com/en/) จะง่ายกว่า เนื่องจากคุณสามารถระบุที่อยู่เป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยภาษาของคุณแล้วแสดงให้คนขับดูได้ วิธีการบอกปลายทางที่จะไป วิธีการบอกปลายทางที่จะไป ประโยคสำคัญที่ใช้ในขณะที่แสดงหน้าจอสมาร์ทโฟนของคุณให้กับคนขับคือ “โคโคนิอิคิไตเดส” ซึ่งแปลว่า “ฉันต้องการไปที่นี่” วิธีการบอกปลายทางที่จะไป ค่าโดยสารและค่าธรรมเนียมของรถแท็กซี่ แท็กซี่จะคิดค่าโดยสารตามมิเตอร์โดยเริ่มต้นที่ 410 เยน สำหรับกิโลเมตรแรก และ 80 เยน สำหรับทุกๆ 237 เมตรถัดไปค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอื่นๆ มีดังนี้• หากรถเคลื่อนที่ต่ำกว่า 10 กม./ชม. จะมีค่าธรรมเนียม 80 เยน/90 วินาที ดังนั้นหากรถติด ค่าโดยสารแท็กซี่ของคุณจะแพงมาก• หากคุณเดินทางระหว่างช่วงเวลา 22:00 - 5:00 น. จะมีค่าบริการเพิ่มขึ้น 20%• หากคุณเรียกให้แท็กซี่มารับ จะมีค่าบริการในการเรียกรถ 410 เยน• หากคุณขึ้นทางด่วนจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม (ค่าทางด่วน เป็นต้น) โดยปกติคนขับจะแจ้งให้คุณทราบในกรณีนี้• รถแท็กซี่ไปสนามบินฮาเนดะและนาริตะจะมีค่าโดยสารตายตัว- ตัวอย่างเช่น จากชิโยดะคุไปยังสนามบินฮาเนดะ คือ 5,600 เยน ในเวลาปกติ และ 6,800 เยน ในช่วงกลางดึกหรือเช้าตรู่ (บริษัทนิฮงคตสึ) ค่าโดยสารและค่าธรรมเนียมของรถแท็กซี่ ตัวอย่างค่าโดยสารรปปงงิ -> ชิบุยะ 3.6 กม. 1,210 เยน (ในกรณีที่ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม)อาซาคุสะ -> ชินากาวะ 13.3 กม. 4,170 เยน (ในกรณีที่ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม)คุณสามารถตรวจสอบค่าโดยสารได้ที่ Navitime *ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น วิธีชำระเงิน บริษัทรถแท็กซี่ส่วนใหญ่จะรับชำระด้วยบัตรเครดิต บัตร Suica (E-money) และเงินสด อย่างไรก็ตาม แท็กซี่บางคันอาจรับชำระด้วยบัตรเครดิตแต่ไม่รับบัตร E-money เช่น Suica หรือ Pasmo วิธีชำระเงิน ©NAVITIME JAPAN. Travel Info Check out our travel tips to make your trip better!
