เที่ยวประเทศญี่ปุ่นพร้อมท่องเน็ทแบบไม่สะดุดแม้ว่าคุณจะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเลยก็ตาม!


2019.10.02

NAVITIME TRAVEL EDITOR

A Traveler's Guide to Getting Online in Japan

ตอนนี้เครือข่ายอินเตอร์เน็ทนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกๆ การเดินทาง ถึงแม้ว่าเราจะไปต่างประเทศ ก็ยังต้องติดต่องาน คุยกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรืออัพเฟส อัพไอจี ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเราต้องใช้อินเตอร์เน็ทในการค้นหาข้อมูลเรื่องท่องเที่ยว การเดินทาง หรือแผนที่ในกูเกิลแมพที่จะช่วยให้เราไปถึงจุดหมายได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทาง แต่ถ้าคุณไม่ได้เตรียมตัว เรื่องการใช้อินเตอร์เน็ทก่อนการเดินทางไปญี่ปุ่น ก็ยังพอมีตัวช่วยอื่นๆ อยู่บ้าง

  • 01

    คุณได้เตรียมตัวก่อนเดินทางหรือไม่?

    ก่อนเดินทาง เราสามารถเตรียมตัวเรื่องอินเตอร์เน็ทได้ ไม่ว่าจะเป็นเราเตอร์ไร้สายขนาดพกพา, ซิมการ์ด, โรมมิ่งและอื่น ๆ ซึ่งสิ่งที่กล่าวมานี้เราสามารถเตรียมไว้ได้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง สามารถค้นหาข้อมูลได้ง่ายๆ ใน Google หรือใน Amazon แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกใช้อันไหนดี เราก็มีบริการ Wi-Fi ที่เชื่อถือได้และเป็นที่นิยมมาแนะนำ นั่นคือ → japan-wireless.com

    คุณได้เตรียมตัวก่อนเดินทางหรือไม่?

    คุณได้เตรียมตัวก่อนเดินทางหรือไม่?

  • 02

    การเช่า Wi-Fi และซื้อซิมในญี่ปุ่น

    ในกรณีที่คุณลืมเตรียมตัวล่วงหน้า มาถึงญี่ปุ่นแล้ว แต่ไม่มีอินเตอร์เน็ทเลย ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้ชีวิตโดยไม่มีอินเตอร์เน็ทได้อย่างไร เพราะว่าเราสามารถทำการเช่าไวไฟเราเตอร์หรือซื้อซิมการ์ดได้ที่สนามบิน ได้ทันที ในวันที่เราเดินทางไปถึงญี่ปุ่น ตอนนี้ มีซิมการ์ดวางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อและร้านบิ๊กคาเมร่า (BIC CAMERA) หมดห่วงได้เลย นอกจากนี้ ถ้าคุณไม่แน่ใจเรื่องบริการอินเตอร์เน็ทชนิดต่างๆ หรืออยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ท มั่นใจได้เลยว่าพนักงานที่ประจำอยู่ตามเคาน์เตอร์ต่างๆ ในสนามบิน พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และแนะนำบริการอินเตอร์เน็ทที่เหมาะสมการใช้งานที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอน

    การเช่า Wi-Fi และซื้อซิมในญี่ปุ่น

    การเช่า Wi-Fi และซื้อซิมในญี่ปุ่น

  • 03

    รถบัสและรถไฟ

    นอกจากนี้ยังมีการให้บริการ Wi-Fi บนรถโดยสารอีกด้วย นั่นคือรถบัสโดยสารไป-กลับระหว่างสนามบินนาริตะกับตัวเมืองโตเกียวและบนรถไฟหลายๆ สาย เช่น รถไฟสายนาริตะเอ็กซ์เพรส (Narita Express) ที่รู้จักกันดีในชื่อย่อว่า N’EX และรถไฟความเร็วสูงอย่างชินคันเซ็น (Shinkansen) ถ้าขึ้นรถดังกล่าวลองมองหาสัญลักษณ์ Wi-Fi เพื่อที่จะได้ไม่ขาดตอนในการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ท

  • 04

    โรงแรม

    ที่สะดวกมากๆ และมองข้ามไม่ได้ก็คือ Wi-Fi ของโรงแรมที่เราเข้าพัก เพราะนอกจาก Wi-Fi ฟรีในห้องพักแล้ว บางแห่งยังมีเราเตอร์ให้ใช้ระหว่างวันอีกด้วย Wi-Fi ในโรงแรมที่นี่ส่วนใหญ่เป็นบริการที่ผู้เข้าพักสามารถใช้งานได้ฟรี มีเพียงไม่กี่ที่ ที่เราจะต้องเสียเงิน

  • 05

    ถ้าคุณมีปัญหาเรื่อง Wi-Fi ตอนที่อยู่ในเมือง

    ถ้าเกิดปัญหาเช่นในขณะที่กำลังแชร์ Wi-Fi ใช้กับเพื่อนอยู่แล้วจู่ๆ แบตเตอรี่ Wi-Fi ก็หมดไปเฉยๆ ให้ลองมองหาว่ารอบๆ ตัวมีร้านสตาร์บัคส์ (Starbucks) หรือ ร้านแม็คโดนัลด์ (McDonald's) หรือไม่ เพราะว่าเราสามารถเข้าไปชาร์ทแบตที่สองร้านนี้ได้ การที่ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ทก็จะไม่เป็นปัญหาเลย เพียงแค่คุณเปิดฟังก์ชั่น “แผนที่” (Map) ที่อยู่ในแอพ “Japan Travel by NAVITIME” ก็สามารถค้นหาจุด Wi-Fi ฮอตสปอตที่อยู่ใกล้, เอทีเอ็ม (ATMs), สถานีรถไฟ, ศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยว, เคาน์เตอร์รับแลกเงินตราต่างประเทศ, ที่รับฝากกระเป๋า, ร้านอาหาร, โรงแรม ไปจนถึงกระทั่งค้นหาร้านร้อยเยน ดังนั้นเพื่อความราบรื่นในการเดินทาง แนะนำให้ดาวน์โหลดแอพ “Japan Travel by NAVITIME” ไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนเดินทาง

    ถ้าคุณมีปัญหาเรื่อง Wi-Fi ตอนที่อยู่ในเมือง

    ถ้าคุณมีปัญหาเรื่อง Wi-Fi ตอนที่อยู่ในเมือง

  • 06

    ร้านกาแฟญี่ปุ่นที่ควรต้องจำชื่อไว้

    ระหว่างที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ถ้าลองสังเกตดูจะพบว่ามีร้านสตาร์บัคส์มากมาย หลายสาขามากๆ ซึ่งเราทราบแล้วว่าที่สตาร์บัคส์มี Wi-Fi แต่ที่อยากจะแนะนำก็คือยังมีร้านกาแฟญี่ปุ่นเจ้าอื่นๆ อีกหลายเจ้าที่ให้บริการ Wi-Fi ฟรีเช่นกันค่ะ
    ・DOUTOR
    ・TULLY’S COFFEE
    ・CAFFÉ VELOCE
    ・EXCELSIOR CAFFE
    * หมายเหตุ รายชื่อร้านกาแฟข้างบนนี้ บางสาขาก็ไม่มีบริการ Wi-Fi ฟรี
    จำชื่อร้านกาแฟเหล่านี้ไว้ให้ดี เผื่อเหตุฉุกเฉิน จะได้มีอินเตอร์เน็ทใช้ในการติดต่อหรือหาข้อมูล

    ร้านกาแฟญี่ปุ่นที่ควรต้องจำชื่อไว้

    ร้านกาแฟญี่ปุ่นที่ควรต้องจำชื่อไว้

    สนามบินนาริตะ
    place
    จังหวัดชิบะ
    ดูทั้งหมดarrow

คลิกที่นี่เพื่อดูบทความสรุปรวมทั้งบทความนี้